ชมรมเครือข่ายครูดี นนทบุรี เขต ๑
ชมรมเครือข่ายครูดี เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต ๑
วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559
ระงับการโพสต์ชั่วคราว
เนื่องด้วยแอดมินย้ายไปทำงานที่เชียงใหม่ คงต้องรอเวลาประสานครูท่านอื่นมาช่วยอีกทีครับ ช่วงนี้คงต้องระงับการโพสต์ไปก่อน ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
หนังสั้น เดือน...เพ็ญ
หนังสั้นดีๆที่แอดมินอยากให้ทั้งครู ผู้ปกครอง และนักเรียนได้ชมกันครับ
https://www.facebook.com/100007678688201/videos/1638903073042300/
Posted by ขอสิทธิ์ แค่ คิดฮอด on 30 ตุลาคม 2015
วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2558
ความหมายของธงกฐิน ทั้ง ๔ ปริศนาธรรมของคนโบราณ
แอดมินอ่านเจอในเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1513722482282016&set=a.1419778285009770.1073741830.100009328362977&type=3&theater เห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงนำมาบอกต่อครับ ^_^
ความหมายของธงกฐิน ทั้ง ๔ ปริศนาธรรมของคนโบราณ
- ธงรูปจระเข้คาบดอกบัว หมายถึง อย่ามีความโลภเหมือนจระเข้ (เพราะจระเข้มีปากที่ใหญ่กิ
นไม่อิ่ม ) - ธงรูปนางกินรีหรือนางมัจฉาถ
ือดอกบัว หมายถึง อย่ามีความหลง (เสน่ห์แห่งความงามที่ชวนหล งใหล) - ธงรูปตะขาบคาบดอกบัว หมายถึง อย่าโกรธเหมือนตะขาบ (เพราะตะขาบเป็นสัตว์มีพิษร
้าย) เหมือนความโกรธที่แผดเผาจิต ใจ - ธงรูปเต่าคาบดอกบัว หมายถึง จงมีสติเหมือนเต่า (คือการสำรวมระวังรักษาอายต
นะทั้ง ๖ ดุจเต่าที่หดอวัยวะอยู่ในกร ะดอง)
วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558
เรื่องเล่าแอดมิน
ช่วงที่ผ่านมาแอดมินลองไปสอบครูผู้ช่วยมาครับ ผลสอบปรากฏว่าได้ขึ้นบัญชีครับ (แอบดีใจ) คำถามที่สำคัญเกี่ยวกับความรู้ความสามารถทั่วไปของวิชาชีพ คือคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ทำให้แอดมินต้องกลับมาทบทวนว่า หนังสือที่แอดมินได้จากการอบรมคุณธรรมน่าจะมีประโยชน์ต่อครูทั้งหลายในการขยายความและช่วยให้ครูเห็นพฤติกรรมที่ชัดเจนได้ดีขึ้น แอดมินกำลังเตรียมเนื้อหาอยู่ พบกันเร็วๆนี้ครับ ^_^
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558
จรรยาบรรณห้ามลืม
1. ครูต้องรักและเมตตาศิษย์
โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริมให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
- สร้างความรู้สึกเป็นมิตร เป็นที่พึ่งพาและไว้วางใจได้ของศิษย์แต่ละคนและทุกคน
ตัวอย่างเช่น ให้ความเป็นกันเองกับศิษย์, รับฟังปัญหาของศิษย์และให้ความช่วยเหลือศิษย์, ร่วมทำกิจกรรมกับศิษย์เป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม, สนทนาไต่ถามทุกข์สุขของศิษย์ ฯลฯ - ตอบสนองข้อเสนอและการกระทำของศิษย์บนทางสร้างสรรค์ ตามสภาพปัญหาความต้องการและศักยภาพของศิษย์แต่ละคนและทุกคน
ตัวอย่างเช่น สนใจคำถามและคำตอบของศิษย์ทุกคน, ให้โอกาสศิษย์แต่ละคนได้แสดงออกตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ, ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องของศิษย์, รับการนัดหมายของศิษย์เกี่ยวกับการเรียนรู้ก่อนงานอื่น ฯลฯ - เสนอและแนะแนวทางการพัฒนาของศิษย์แต่ละคนและทุกคนตามความถนัด
ความสนใจ และศักยภาพของศิษย์
ตัวอย่างเช่น มอบหมายงานตามความถนัด, จัดกิจกรรมหลากหลายตามสภาพความแตกต่างของศิษย์เพื่อให้แต่ละคนประสบความสำเร็จเป็นระยะๆอยู่เสมอ,แนะแนวทางที่ถูกให้แก่ศิษย์, ปรึกษาหารือกับครู ผู้ปกครอง เพื่อนนักเรียน เพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ปัญหาของศิษย์ ฯลฯ - แสดงผลงานที่ภูมิใจของศิษย์แต่ละคน
และทุกคนทั้งในและนอกสถานศึกษา
ตัวอย่างเช่น ตรวจผลงานของศิษย์ย่างสม่ำเสมอ, แสดงผลงานของศิษย์ในห้องเรียน (ห้องปฏิบัติการ), ประกาศหรือเผยแพร่ผลงานของศิษย์ประสบความสำเร็จ ฯลฯ
2. ครูต้องอบรม
สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัย ที่ถูกต้องดีงาม ให้เกิดแก่ศิษย์
อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ
- อบรม
สั่งสอน ฝึกฝนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาศิษย์ย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ
ตัวอย่างเช่น สอนเต็มเวลา ไม่เบียดบังเวลาของศิษย์ไปหาผลประโยชน์ส่วนตน, เอาใจใส่ อบรม สั่งสอนศิษย์จนเกิดทักษะในการปฏิบัติงาน, อุทิศเวลาเพื่อพัฒนาศิษย์ตามความจำเป็นและเมหาะสม, ไม่ละทิ้งชั้นเรียนหรือขาดการสอน ฯลฯ - อบรม
สั่งสอน ฝึกฝนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาศิษย์ย่างเต็มศักยภาพ
ตัวอย่างเช่น เลือกใช้วิธีการที่หลากหลายในการสอนให้เหมาะสมกับสภาพของศิษย์, ให้ความรู้โดยไม่ปิดบัง, สอนเต็มความสามารถ, เปิดโอกาสให้ศิษย์ได้ฝึกปฏิบัติอย่างเต็มความสามารถ, สอนเต็มความสามารถและด้วยความเต็มใจ, กำหนดเป้าหมายที่ท้าทาย พัฒนาขึ้น, ลงมือจัด เลือกกิจกรรมที่นำสู่ผลจริง, ประเมิน ปรับปรุง ให้ได้ผลจริง, ภูมิใจเมื่อศิษย์ได้พัฒนา ฯลฯ - อบรม
สั่งสอน ฝึกฝนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาศิษย์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ตัวอย่างเช่น สั่งสอนศิษย์โดยไม่บิดเบือนหรือปิดบัง อำพราง, อบรมสั่งสอนศิษย์โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง, มอบหมายงานและตราวจผลงานด้วยความยุติธรรม ฯลฯ
3. ครูต้องประพฤติ
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
- ตระหนักว่าพฤติกรรมการแสดงออกของครูมีผลต่อการพัฒนาพฤติกรรมของศิษย์อยู่เสมอ
ตัวอย่างเช่น ระมัดระวังในการกระทำ และการพูดของตนเองอยู่เสมอ, ไม่โกรธง่ายหรือแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวต่อหน้าศิษย์ มองโลกในแง่ดี ฯลฯ - พูดจาสุภาพและสร้างสรรค์โดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับศิษย์ละสังคม
ตัวอย่างเช่น ไม่พูดคำหยาบหรือก้าวร้าว, ไม่นินทาหรือพูดจาส่อเสียด, พูดชมเชยให้กำลังใจศิษยด้วยความจริงใจ ฯลฯ - กระทำตนเป็นแบบอย่างที่ดี
สอดคล้องกับคำสอนของตน และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม
ตัวอย่างเช่น ปฏิบัติตนให้มีสุขภาพ และบุคลิกภาพที่ดีอยู่เสมอ, แต่งกายสะอาดสุภาพเรียบร้อยเหมาะสมกับกาลเทศะ, แสดงกริยามารยาทสุภาพเรียบร้อยอยู่เสมอ, ตรงต่อเวลา, แสดงออกซึ่งนิสัยที่ดีในการประหยัด ซื่อสัตย์อดทน สามัคคี มีวินัย รักษาสาธารณสมบัติและสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
4. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย
สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์
- ละเว้นการกระทำที่ทำให้ศิษย์เกิดความกระทบกระเทือนต่อจิตใจ
สติปัญญา อารมณ์และสังคมของศิษย์
ตัวอย่างเช่น ไม่นำปมด้อยของศิษย์มาล้อเลียน, ไม่ประจานศิษย์, ไม่พูดจาหรือกระทำการใดที่เป็นการซ้ำเติมปัญหาหรือข้อบกพร่องของศิษย์, ไม่นำความเครียดมาระบายต่อศิษย์, ไม่ว่าจะด้วยคำพูด หรือสีหน้า ท่าทาง, ไม่เปรียบเทียบฐานะความเป็นอยู่ของศิษย, ไม่ลงโทษศิษย์เกินกว่าเหตุ ฯลฯ - ละเว้นการกระทำที่เป็นอันตราต่อสุขภาพและร่างกายของศิษย์
ตัวอย่างเช่น ไม่ทำร้ายร่างกายศิษย์, ไม่ลงโทษศิษย์เกินกว่าระเบียบกำหนด, ไม่จัดหรือปล่อยปละละเลยให้สภาพแวดล้อมเป็นอันตรายต่อศิษย์, ไม่ใช่ศิษย์ทำงานเกินกำลังความสามารถ ฯลฯ - ละเว้นการกระทำที่สกัดกั้นพัฒนาการทางสติปัญญา
อารมณ์ จิตใจ และสังคมของศิษย์
ตัวอย่างเช่น ไม่ตัดสินคำตอบถูกผิดโดยยึดคำตอบของครู, ไม่ดุด่าซ้ำเติมศิษย์ที่เรียนช้า, ไม่ขัดขวางโอกาศให้ศิษย์ได้แสดงออกทางสร้างสรรค์, ไม่ตั้งฉายาในทางลบให้แก่ศิษย์ ฯลฯ
5. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์กระทำการใด ๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์
ให้แก่ตนโดยมิชอบ
- ไม่รับหรือแสวงหาอามิสสินจ้างหรือผลประโยชน์อันมิควรจากศิษย์ตัวอย่างเช่น ไม่หารายได้จากการนำสินค้ามาขายให้ศิษย์,
ไม่ตัดสินผลงานหรือผลการเรียน โดยมีสิ่งแลกเปลี่ยน, ไม่บังคับหรือสร้างเงื่อนไขให้ศิษย์มาเรียนพิเศษเพื่อหารายได้ ฯลฯ
- ไม่ใช้ศิษย์เป็นเครื่องมือหาประโยชน์ให้กับตนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ขนบธรรมเนียมประเพณีหรือความรู้สึกของสังคม
ตัวอย่างเช่น ไม่นำผลงานของศิษย์ไปแสวงหากำไรส่วนตน, ไม่ใช้แรงงานศิษย์เพื่อประโยชน์ส่วนตน, ไม่ใช้หรือจ้างวานศิษย์ไปทำสิ่งผิดกฏหมาย ฯลฯ
6. ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งทางด้านวิชาชีพ
ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทาง วิทยาการ
เศรษฐกิจสังคมและการเมืองอยู่เสมอ
- ใส่ใจศึกษาค้นคว้า
ริเริ่มสร้างสรรค์ความรู้ใหม่ที่เกี่ยวกับวิชาชีพอยู่เสมอ
ตัวอย่างเช่น หาความรู้จากเอกสาร ตำรา และสื่อต่างๆอยู่เสมอ, จัดทำและเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อต่างๆ ตามโอกาส, เข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนา หรือฟังการบรรยาย หรืออภิปรายทางวิชาการ ฯลฯ - มีความรอบรู้ทันสมัย
ทันเหตุการณ์ สามารถนำมาวิเคราะห์ กำหนดเป้าหมาย แนวทางพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การอาชีพ และเทคโนโลยี
ตัวอย่างเช่น นำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ประกอบการเรียนการสอน, ติดตามข่าวสารเหตุการณ์บ้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การเมืองอยู่เสมอ, วางแผนพัฒนาตนเองและพัฒนางาน ฯลฯ - แสดงออกทางร่างกาย
กริยา วาจา อย่างสง่างาม เหมาะสมกับกาลเทศะตัวอย่างเช่น รักษาสุขภาพและปรับปรุงบุคลิกภาพอยู่เสมอ,
มีความเชื่อมั่นในตนเอง, แต่งกายสะอาดเหมาะสมกับกาลเทศะและทันสมัย,
มีความกระตือรือร้น ไวต่อความรู้สึกของสังคม ฯลฯ
7. ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์กรวิชาชีพครู
- เชื่อมั่น
ชื่นชม ภูมิใจในความเป็นครูและองค์กรวิชาชีพครู
ว่ามีความสำคัญและจำเป็นต่อสังคม
ตัวอย่างเช่น ชื่นชมในเกียรติและรางวัลที่ได้รับและรักษาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย, ยกย่องชมเชยเพื่อนครูที่ประสบผลสำเร็จเกี่ยวกับการสอน, เผยแพร่ผลสำเร็จของตนเองและเพื่อนครู, แสดงตนว่าเป็นครูอย่างภาคภูมิ ฯลฯ - เป็นสมาชิกองค์กรวิชาชีพครูและสนับสนุนหรือเข้าร่วมหรือเป็นผู้นำในกิจกรรมพัฒนาวิชาชีพครู
ตัวอย่างเช่น ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อกำหนดขององค์กร, ร่วมกิจกรรมที่องค์กรจัดขึ้น, เป็นกรรมการหรือคณะทำงานขององค์กร ฯลฯ - ปกป้องเกียรติภูมิของครูและองค์กรวิชาชีพ
ตัวอย่างเช่น เผยแพร่ประชมสัมพันธ์ผลงานของครูและองค์กรวิชาชีพครู, เมื่อมีผู้เข้าใจผิดเกี่ยวกับวงการวิชาชีพครูก็ชี้แจงทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ฯลฯ
8. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
- ให้ความร่วมมือแนะนำ
ปรึกษาแก่เพื่อนครูตามโอกาสและความเหมาะสม
ตัวอย่างเช่น ให้คำปรึกษาการจัดทำผลงานทางวิชาการ, ให้คำแนะนำการผลิตสื่อการเรียนการสอน ฯลฯ - ให้ความช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์
สิ่งของแด่เพื่อนครูตามโอกาสและความเหมาะสม
ตัวอย่างเช่น ร่วมงานกุศล, ช่วยทรัพย์เมื่อเพื่อนครูเดือนร้อน, จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฯลฯ - เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชนรวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางวิธีการปฏิบัติตน
ปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
ตัวอย่างเช่น แนะแนวทางการป้องกัน และกำจัดมลพิษ, ร่วมกิจกรรมตามประเพณีของชุมชน ฯลฯ
9. ครูพึงประพฤติ
ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย
- รวบรวมข้อมูลและเลือกสรรภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมที่เหมาะสมมาใช้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ตัวอย่างเช่น เชิญบุคคลในท้องถิ่นมาเป็นวิทยากร, นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้จัดการเรียนการสอน, นำศิษย์ไปศึกษาในแหล่งวิทยาการชุมชน ฯลฯ - เป็นผู้นำในการวางแผน
และดำเนินการเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรม
ตัวอย่างเช่น ฝึกการละเล่นท้องถิ่นให้แก่ศิษย์, จัดตั้งชมรม สนใจศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น, จัดทำพิพิธภัณฑ์ในสถานศึกษา ฯลฯ - สนับสนุนส่งเสริมเผยแพร่และร่วมกิจกรรมทางประเพณีวัฒนธรรมของชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างเช่น รณรงค์การใช้สินค้าพื้นเมือง, เผยแพร่การแสดงศิลปะพื้นบ้าน, ร่วมงานประเพณีของท้องถิ่น ฯลฯ - ศึกษาวิเคราะห์
วิจัยภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อนำผลมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
ตัวอย่างเช่น ศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับการละเล่นพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ตำนานและความเชื่อถือ, นำผลการศึกษาวิเคราะห์มาใช้ในการเรียนการสอน ฯลฯ
ที่มา: สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา, แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณครู พ.ศ. 2539. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2541
วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558
สนุกในการเรียน เสี่ยงในการศึกษา
แอดมินเห็นว่าดี จึงตัดบางส่วนมาให้ชม เล่มจริงดาวน์โหลดได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/siam_three_tri.pdf
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)